วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

หอรัษฎากรพิพัฒน์




หอรัษฎากรพิพัฒน์



ความเป็นมาของหอรัษฎากรพิพัฒน์

                 สมัยก่อนการเก็บภาษี - อากร เป็นหน้าที่ของการปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ที่มีอำนาจเกี่ยวข้องโดยหน้าที่ เช่น เจ้าเมือง พระยาโกษาธิบดี และขุนคลัง ซึ่งเงินจากการเก็บอากรเหล่านี้ จะมีการเก็บส่งหลวงในตอนท้ายปี แต่เมื่อถึงกำหนดส่งแล้ว ผู้ที่มีอำนาจเหล่านี้จึงเก็บกักเงินบางส่วนไว้เป็นของตน  
                 ซึ่งต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ การจัดเก็บภาษีอากรที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศก็เป็นไปด้วยความยากลำบากไม่เป็นระเบียบกระจัดกระจายรั่วไหลไปมากมาย พระองค์ทรงจัดตั้งหอรัษฎากรพิพัฒน์ในวันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๑๖ อยู่ในพระบรมมหาราชวัง ขึ้นตรงต่อพระองค์ ให้เป็นสำนักงานกลางเก็บผลประโยชน์รายได้ภาษีอากรของแผ่นดินมารวมไว้ ณ ที่แห่งเดียว เพื่อจัดวางหลักเกณฑ์ระบบการจัดเก็บภาษีอากร ให้เป็นระเบียบมีแบบแผน ควบคุมภาษีอากร ให้จัดส่งเงินรายได้แผ่นดินให้ตรงตามกำหนดเวลา ถ้าผู้ใดละเมิดระเบียบแบบแผนการจัดส่งเงินภาษีอากรจะถูกลงโทษอย่างเฉียบขาด โดยทรงแต่งตั้งให้เจ้าฟ้าจาตุรนตรัศมีเป็นผู้รับผิดชอบโดยมีเจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรรักษ์ (พระปิตุลา) เสนาบดีคลังเป็นที่ปรึกษา และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯทรงควบคุมใกล้ชิด




                   หน้าที่ของหอรัษฎากรพิพัฒน์นอกจากจะเป็นสถานที่เก็บภาษีอากรแล้วและยังมีหน้าที่รับผิดชอบการจ่ายเงินเดือนในอัตราที่แน่นอนให้กับข้าราชการฝ่ายพลเรือนและทหาร เฉพาะในส่วนกลางแทนการจ่ายเบี้ยหวัดและเงินปี ทำให้มีการยกเลิกระบบกินเมือง
                 
     อ้างอิง

http://www.gotoknow.org/posts/211806           http://www.thaigoodview.com/library/contest2552/type2/social04/11/content/k5-21.html
http://www.rd.go.th/publish/3456.0.html